THAI

NISA = Next-Generation Intelligent System Architecture

(สถาปัตยกรรมระบบอัจฉริยะยุคถัดไป)

🎯 วิสัยทัศน์ (Vision)

สร้างแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์–ซอฟต์แวร์ครบวงจร สำหรับ AI, High-Performance Computing (HPC), Metaverse และ Autonomous Systems

ที่มี GPU + CUDA + Ecosystem

→ แต่ NISA จะเน้น AI-centric + Cross-platform + Green computing

🏗️ โครงสร้างโปรเจกต์ NISA

1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware Layer)

NISA Core → ชิปประมวลผล AI (GPU/ASIC)

NISA Quantum Accelerator (ระยะยาว) → รองรับการประมวลผลควอนตัม

NISA Edge Device → ชิปประหยัดพลังงาน สำหรับ IoT, Robotics

2. ซอฟต์แวร์ (Software Stack)

NISA Compute (NCUDA) → API/SDK แบบ CUDA alternative

NISA Studio → IDE + Tools สำหรับนักพัฒนา AI/ML

NISA Cloud Runtime → ทำงานบน Cloud/Edge ได้ seamless

3. Ecosystem

NISA Research Lab → ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัย

NISA Dev Community → นักพัฒนาโอเพนซอร์ส

NISA Enterprise Solutions → บริการ AI สำหรับธุรกิจ (Healthcare, Finance, Smart City)

⚡ จุดแข็งของ NISA

✅ Green AI → ใช้พลังงานน้อยกว่า, carbon footprint ต่ำ

✅ Cross-platform by design → รองรับทั้ง GPU, FPGA, CPU, Quantum

✅ Open-First → SDK/Runtime เปิดโอเพนซอร์ส, สร้าง community

✅ AI-Centric Hardware → ไม่ใช่ general-purpose GPU อย่างเดียว แต่ optimize สำหรับ LLM, Vision, Robotics

📊 โมเดลธุรกิจ

1. Hardware Sales → NISA GPU/Accelerator

2. Software Licenses/Support → NISA Studio Pro, Enterprise SDK

3. Cloud Service → NISA Cloud (AI as a Service)

4. Partnerships → ร่วมกับ OEM/Startups สร้างอีโคซิสเต็ม

🛠️ ขั้นตอนเริ่มต้น

1. สร้าง NISA Compute Runtime

2. พัฒนา Kernel Library สำหรับ AI (MatrixOps, Transformer kernels, Conv2D, Attention)

3. สร้าง NISA Studio (Dev Tools) → SDK + Profiler + Model Optimizer

4. ทำ Demo Flagship → LLM + Stable Diffusion เร็วกว่า framework ปกติ

👉 สรุป: NISA เน้น Green AI + Open Ecosystem + Cross-platform

โรดแมป 5 ปีของ NISA

ปีที่ 1 – การวางรากฐาน (MVP)

พัฒนา NISA Compute Runtime (NCUDA): ระบบรันไทม์แบบ CUDA สำหรับงาน AI/ML

สร้าง คลัง Kernel หลัก: GEMM, Convolution, Attention, LayerNorm, Softmax

เปิดตัว NISA Studio (SDK/Dev Tools) พร้อม API ภาษา Python และตัว Profiler เบื้องต้น

ปล่อย เดโมเรือธง:

LLM (7B) สำหรับการสร้างข้อความ

Stable Diffusion สำหรับการสร้างภาพ

จัดตั้ง CI/CD, ระบบ Benchmark และการจัดการไฟล์อาร์ติแฟกต์

ปีที่ 2 – การขยายตัว

เปิดตัว NISA Edge Chip สำหรับ IoT/Robotics ที่เน้นการใช้พลังงานต่ำ

เพิ่ม Backend รองรับหลายแพลตฟอร์ม: ROCm, Vulkan, Metal

ก่อตั้ง ห้องวิจัย NISA Research Lab ร่วมกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัย

เปิด Developer Portal และ Model Zoo สำหรับนักพัฒนา

เริ่มโครงการนำร่องเชิงพาณิชย์กับ องค์กรแรก ๆ (การเงิน, การแพทย์)

ปีที่ 3 – การเติบโตของ Ecosystem

เปิดตัว NISA Cloud Runtime: รองรับการทำงานแบบไร้รอยต่อทั้ง Cloud และ Edge

เริ่มวิจัย Quantum Hybrid Accelerator (AI + Quantum Computing)

ขยาย โซลูชัน AI สำหรับองค์กร เช่น Healthcare (วินิจฉัย), Finance (การประเมินความเสี่ยง), Smart City (โครงสร้างพื้นฐานและพลังงาน)

สร้าง โครงการพันธมิตร OEM/Startup

ตั้งเป้า นักพัฒนาใช้งานจริงมากกว่า 10,000 คน บนแพลตฟอร์ม NISA

ปีที่ 4 – การขยายและเจาะตลาดอุตสาหกรรม

เปิดตัว NISA Core Accelerator รุ่นที่ 2: ประสิทธิภาพสูงขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง

ขยายไลน์ Edge AI Chip สำหรับยานยนต์และหุ่นยนต์

ขยาย NISA Cloud Services → บริการ AI-as-a-Service แบบสมัครสมาชิก

ขยายฐานลูกค้าองค์กรระดับโลก (Fortune 500)

สร้าง NISA Marketplace สำหรับโมเดล AI, Kernel และเครื่องมือพัฒนา

ปีที่ 5 – ก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับโลก

สร้างภาพลักษณ์ของ NISA ให้เป็น ผู้นำโครงสร้างพื้นฐาน AI แข่งขันโดยตรงกับ NVIDIA และ AMD

เปิดตัว แพลตฟอร์ม Quantum-Hybrid Compute สำหรับงาน AI/วิทยาศาสตร์ขั้นสูง

ขยาย Ecosystem สู่ 100,000+ นักพัฒนา และฐานผู้ร่วมพัฒนาโอเพนซอร์ส

กลายเป็น แพลตฟอร์มหลักสำหรับ Startup และองค์กร AI หลายอุตสาหกรรม

เตรียมความพร้อมสำหรับ การ IPO หรือ Strategic Partnership กับบริษัทเทคระดับโลก

🌟 คุณค่า (Value Proposition) ตลอดเส้นทาง

🌱 Green AI: ออกแบบให้ใช้พลังงานต่ำและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

🔄 Cross-Platform: ใช้งานได้ทั้ง GPU, CPU, FPGA และ Quantum

🛠️ Open Ecosystem: เปิดกว้างให้คอมมูนิตี้ร่วมพัฒนา

⚡ AI-Centric Hardware: ปรับแต่งมาสำหรับงานสมัยใหม่ เช่น LLMs, Vision, Robotics

————————————————